บริษัทรับประมูลของเก่านครราชสีมา รับประมูลของเก่าโรงงานอุตสาหกรรม โรงงานขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่, โรงแรม, โรงงาน SME, ร้านค้า และห้างร้านขนาดใหญ่ เรามีทีมงานมืออาชีพ เชื่อถือได้ ไม่ทอดทิ้งลูกค้า รับงานแล้วเก็บกวาด 100% มั่นใจได้ รับรองตีราคาทุกรูปแบบแล้วไม่ผิดหวัง พูดคุยกันก่อนได้ รับซื้อถึงที่ ถึงโรงงานของท่าน ตามกำหนดเวลา เรายินดีรับซื้อของเก่าทุกชนิด, รับซื้อเศษเหล็กนครราชสีมา , รับซื้อเศษอลูมิเนียม, รับซื้อเศษสแตนเลส, รับซื้อเศษทองแดง, รับซื้อเศษทองเหลือง, รับซื้อเฟอร์นิเจอร์เก่าที่บ้านหรือที่ทำงาน, รับซื้ออุปกรณ์สำนักงานนครราชสีมา , รับซื้อเฟอร์นิเจอร์มือสอง, รับซื้อขวดแก้วทุกชนิด, รับซื้อกระดาษเก่า, รับซื้อกล่อง/ลังกระดาษ, รับซื้อแอร์เก่าทุกชนิด-ทุกขนาด, รับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า, รับซื้อเศษสายไฟเก่า, รับซื้อหม้อแปลงไฟฟ้านครราชสีมา , รับซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้สักเก่า, รับซื้อคอมพิวเตอร์เก่า, รับซื้อโน๊ตบุ๊คเก่า, รับซื้อเครื่องจักรเก่าขนาดใหญ่ให้ราคาดี, และเรายังรับซื้อของเก่าในโรงแรม เช่น ผ้าเช็ดตัว, ผ้าปูที่นอนนครราชสีมา , หมอนเก่า, เฟอร์นิเจอร์, โคมไฟ, กาน้ำร้อน, ไดร์เป่าผม, โซฟา, เตียงนอน, ที่นอน และอื่น ๆ รับซื้อของเก่าทุกชนิดจำนวนมาก บริการรับซื้อถึงที่ จ่ายเงินสด ให้ราคาดี
รับประมูลของเก่านครราชสีมา
รับชื้อของเก่านครราชสีมา
ประมูลของเก่านครราชสีมา
งานประมูลของเก่านครราชสีมา
ร้านรับชื้อของเก่านครราชสีมา
ซื้อของเก่าวันนี้นครราชสีมา
ต้องการขายของเก่านครราชสีมา
ติดต่อเสี่ยต๊ะ



5 เรื่องต้องรู้ก่อนประมูลทรัพย์
ยามเศรษฐกิจขาขึ้นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน, ค่าไฟฟ้า, ค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่เงินเดือน หรือรายได้กลับเดินสวนทาง บริษัทรับประมูลของเก่านครราชสีมา การหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่เพิ่มเติมจากรายได้ประจำถือเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์มาก หากใครกำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติม การซื้อทรัพย์ราคาถูกจากการประมูลขายทอดตลาดถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่หากเข้าถูกจังหวะ จะสร้างรายได้งามๆ ให้กับตัวเองเลยทีเดียว แต่ก่อนเข้าร่วมประมูลควรต้องรู้กฎ กติกา คร่าวๆ เกี่ยวกับการประมูลทรัพย์กันก่อน
1. ประมูลทรัพย์ ต้องวางเงินประกันก่อนประมูล
ไม่ใช่นึกอยากจะไปประมูลก็เดินเข้าไปประมูล เสนอราคาสู้กันตามอำเภอใจ แต่ผู้ที่จะเข้าร่วมประมูล ต้องวางหลักประกันเป็นเงินสด รับประมูลของเก่านครราชสีมา หรือแคชเชียร์เช็คในการเข้าสู้ราคาตามจำนวนเงินที่ประกาศตามหลักเกณฑ์นี้
หากเจอทรัพย์ดี ราคาโดน อย่าลืมเตรียมหลักประกันไว้ให้พร้อมก่อนจะเข้าร่วมประมูล จะได้ไม่เสียโอกาสในการประมูลไป
2. ประมูลทรัพย์ ยิ่งขายไม่ได้ราคายิ่งปรับลด
ยิ่งขายทอดตลาดนานราคายิ่งลด เพราะหากยังไม่สามารถขายทอดตลาดทรัพย์นั้นได้ รับชื้อของเก่านครราชสีมา การขายทอดตลาดครั้งต่อไปราคาจะยิ่งลดลงไปเรื่อๆ ตามลำดับจาก 100 เป็น 90, 80 และ 70 โดยตั้งแต่ครั้งที่ 4 เป็นต้นไปจะกำหนดราคาเริ่มต้นร้อยละ 70 ของราคาประเมินทุนทรัพย์
การเข้าร่วมประมูลทรัพย์แต่ละครั้ง หากเห็นว่ายังไม่มีใครสู้ราคาก็อาจจะยังไม่ต้องรีบร้อนเสนอราคาก็ได้ ประมูลของเก่าโรงงานนครราชสีมา เพราะหากขายไม่ได้ประมูลครั้งต่อไปราคาประเมินก็จะลดลงทำให้เราได้ทรัพย์ดีในราคาที่ถูกลงไปอีก แต่หากพอใจและไม่อยากรอราคาก็ประมูลไปเลยสบายใจ
แต่อย่าชะล่าใจคิดว่าไม่มีใครซื้อ ครั้งต่อไปก็เลยไม่เข้าร่วมประมูลกะรอซื้อครั้งที่ 4 จะได้ราคาต่ำสุดๆ ประมูลของเก่านครราชสีมา ควรเข้าร่วมในการประมูลทุกครั้ง เพราะครั้งที่แล้วไม่ได้ขาย อาจจะไม่ได้แปลว่าไม่มีคนสนใจ อาจจะมีคนรอจังหวะเหมือนเรา เคาะซื้อไปในครั้งที่เราไม่ได้ไปเสียโอกาสไปอีก อย่าลืมว่าทรัพย์ดีคงไม่มีใครยอมปล่อยให้หลุดมือแน่ แค่รอจังหวะ โอกาส และราคาที่เหมาะสมเท่านั้น
3. ประมูลทรัพย์ได้ แต่ชำระราคาไม่ได้ เงินประกันถูกยึด
หากเราชนะการประมูลอสังหาริมทรัพย์ สิ่งที่ต้องทำคือชำระเงินส่วนที่เหลือภายใน 15 วันนับจากวันซื้อได้ งานประมูลของเก่านครราชสีมา หากไม่สามารถชำระเงินค่าทรัพย์ที่ซื้อได้ภายในกำหนด สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ
ถูกริบหลักประกันการประมูล คือเงิน หรือ แคชเชียร์เช็คที่วางเป็นประกันไว้ก่อนเข้าร่วมประมูลทรัพย์
การประมูลครั้งนั้นกลายเป็นเป็นโมฆะ และจะทำการเปิดประมูลทรัพย์นั้นใหม่
หากราคาขายจากการประมูลครั้งใหม่ ต่ำกวาราคาประมูลครั้งก่อน ชื้อของเก่านครราชสีมา ผู้ประมูลได้ครั้งก่อนจะต้องชำระค่าส่วนต่างของราคาประมูลด้วย
ชำระค่าปรับ อัตรา 15% ต่อปีจากการไม่ชำระราคาส่วนที่เหลือ งานนี้ถ้ารู้ตัวว่าจะชำระไม่ทันกำหนด เพราะอาจจะต้องรวบรวมเงิน หรือขอสินเชื่อยังไม่ต้องตกอกตกใจ ร้านรับชื้อของเก่านครราชสีมา รีบใช้สิทธิยื่นคำร้องขอขยายเวลาชำระเงินค่าทรัพย์นั้นได้ก่อนครบกำหนด 15 วัน ซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีอาจจะขยายเวลาให้ได้ไม่เกิน 3 เดือน หากมีปัญหาอย่าลืมใช้สิทธิละกัน
4. ประมูลทรัพย์ ผู้ประมูลทรัพย์ ต้องชำระภาษี และค่าธรรมเนียม
1. การซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดที่เป็นอสังหาริมทรัพย์
จะต้องมีการโอนกรรมสิทธิ์จากเจ้าของเดิมให้กับผู้ประมูลได้ ซึ่งจะมีภาระภาษี และค่าธรรมเนียมเกี่ยวข้องหลายรายการซึ่งโดยปกติแล้ว ซื้อของเก่าวันนี้นครราชสีมา ผู้ขายหรือเจ้าของทรัพย์จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับภาษีและค่าธรรมเนียมในการโอน
แต่ประกาศของเจ้าพนักงานบังคับคดี เรื่อง การขายทอดตลาด ได้มีข้อสัญญาระบุให้ผู้ซื้อเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอน ของเก่ามือสองนครราชสีมา และค่าภาษีอากรจากการขายที่ดินตามประมวลรัษฎากร ดังนั้นผู้ซื้อทรัพย์ได้จากการขายทอดตลาดจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมและค่าภาษีอากรจากการซื้อที่ดินดังกล่าวเป็นประเด็นที่ต้องคำนึงและนำมารวมเป็นต้นทุนด้วย
5. ประมูลทรัพย์ ต้องดูเงื่อนไขการขายทรัพย์ให้ชัดเจน
ในการเข้าร่วมประมูล นอกจากจะต้องตรวจสอบสภาพทรัพย์, ตรวจสอบราคาทรัพย์สินแล้ว ควรตรวจสอบเงื่อนไขการประมูลให้ดี ต้องการขายของเก่านครราชสีมา เพราะบางกรณีอาจจะเป็นการแบบติดภาระจำนอง หรือเป็นการขายทรัพย์พร้อมหนี้สินติดพ่วงมาด้วย
หากเป็นการขายแบบนี้ นอกจากต้องจ่ายเงินค่าทรัพย์สินจากการประมูลแล้ว ผู้ประมูลอาจจะต้องชำระหนี้ที่ติดมาด้วย บริษัทรับประมูลของเก่านครราชสีมา หากจะซื้อทรัพย์สินลักษณะนี้ต้องตรวจสอบเรื่องจำนวนยอดหนี้และรายละเอียดต่างๆให้เรียบร้อยก่อนประมูล
ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่า ซื้อทรัพย์ประมูลได้ในราคาถูก รับประมูลของเก่านครราชสีมา แต่ต้องรับภาระหนี้จองอีกเพียบแบบนี้ไม่ดีแน่ๆ เผลอๆ จากที่คิดว่ากำไรกลายเป็นขาดทุนไปซะอีก

การคมนาคม
ทางอากาศ
-วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
-วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ( จันทร์,พุธ,พฤหัสบดี,เสาร์ ) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
รถโดยสารประจำทาง
- เดินทางจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
รถปรับอากาศชั้น 1
-
-
- บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
รถปรับอากาศชั้น 2
-
-
รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
-
-
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
- เดินทางภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
-
-
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย
- เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
-
- ภาคอีสาน ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่
- ภาคกลาง ได้แก่
- ภาคตะวันออก ได้แก่
- ภาคตะวันตก ได้แก่
- ภาคใต้ ได้แก่
- เดินทางระหว่างประเทศ
-
-
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา – นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- 1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- 2. การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ – อุบลราชธานีและกรุงเทพ – หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานีหนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว